หลังจากที่เราได้รู้ไปแล้วว่าขั้นตอนการออกแบบเว็บไซต์ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ต่อมาเราก็ควรรู้ว่า ในการจะสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเว็บหนึ่ง ต้องมีรูปแบบการสร้างอย่างไรบ้าง ซึ่งรูปแบบการสร้างเว็บไซต์มีดังนี้
สำรวจฟีเจอร์สำหรับการตลาดและสร้างความเติบโตให้ธุรกิจ
ตัวอย่างการแสดงเนวิเกชั่นเรียบง่าย
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
หาเวลาที่ลงตัวกับตารางเวลาของคุณมากที่สุดและเข้าเรียนกับครูสอนในห้องเรียนเสมือนจริงของเรา
แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่ควรเรียบง่ายจนขาดจุดน่าสนใจ เพราะการออกแบบหน้าเว็บที่ซับซ้อนเกินไป มักทำให้ผู้ใช้งานสับสน และไม่สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้สะดวก ควรเลือกใช้กราฟิกกับข้อความแต่พอดี เน้นที่ความสะอาดตาและใช้งานได้ลื่นไหล ซึ่งยังคงต้องสื่อสารข้อมูลสำคัญของหน้าเว็บไซต์ได้
ให้ธุรกิจเติบโตได้รวดเร็วด้วยการตลาดทางอีเมลและโซเชียลมีเดียที่ขยายวงกว้างมากขึ้น
แน่นอนว่าถ้าเว็บไซต์ของเราจะเป็นเว็บไซต์ที่ดีได้นั้น การมีเนื้อหา และคอนเซปต์ที่ดีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเว็บไซต์จะเป็นช่องทางอันดับต้น ๆ ที่จะช่วยเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจของเรา
เว็บไซต์ที่ได้ทำการเผยแพร่ออกไปแล้วไม่ควรละเลย ควรดูแล และพัฒนาอยู่ตลอด เพื่อให้เว็บไซต์มีเนื้อหาที่สดใหม่ ทันสมัยอยู่เสมอ
ตรวจสอบความถูกต้อง เรียบร้อย สมบูรณ์ ของข้อมูลในเว็บไซต์อยู่เสมอ การสะกดคำ ข้อมูลรายละเอียด ลิงก์ในเว็บไซต์เรา ยังคงถูกต้อง ใช้งานได้อยู่หรือไม่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ควรได้รับการตรวจสอบความถูกต้องอยู่เสมอ อาจจะอาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างน้อย
ข้อเสีย : เป็นเว็บไซต์ที่มีความซับซ้อน ต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำความคุ้นเคยกับมัน
หลักการออกแบบเว็บไซต์ให้มีคุณภาพดี ควรออกแบบอย่างไร
การดีไซน์ เว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จ ออกแบบเว็บไซต์ ต้องคำนึงถึงจิตวิทยาของสีที่ส่งผลต่อความรู้สึกของผู้ใช้งาน ซึ่งการออกแบบหน้าเว็บไซต์ ควรเลือกใช้สีที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ เช่น สีฟ้าสื่อถึงความน่าเชื่อถือ สีเขียวสื่อถึงความสดชื่นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ความเรียบง่ายและความสวยงาม: เลือกใช้สี ตัวอักษร และภาพประกอบที่สอดคล้องกัน ไม่รกตา และสื่อถึงตัวตนของแบรนด์ได้ชัดเจน